เรื่องราวของ 2 อัจฉริยะวงการคอมพิวเตอร์ สตีฟ จ็อบ ผู้ก่อตั้ง Apple เจ้าของผลงาน Macintosh อันลือชื่อ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft เจ้าของผลงาน MS-Dos Windows ทั้งหลาย เป็นเรื่องราว ในลักษณะบอกเล่า คล้ายสารคดี เล่าถึงประวัติของ สตีฟ จ็อบ …ผู้ก่อตั้ง แอปเปิล คอมพิวเตอร์ และ บิล เกตส์ … บุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกขณะนี้ ผู้ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ หนังได้แสดงให้ถึงความเป็นมาของบุคคลทั้งสองนี้ แต่บทเด่น รู้สึกจะเหมือนอยู่ที่ สตีฟ จ็อบ มากกว่า
การที่ตั้งชื่อหนังว่า “โจร สลัด” นั้นก็เพื่อชี้เห็นว่า วงการคอมพิวเตอร์นี้ มีการชิงไหวชิงพริบกันมากมายเหลือเกิน ผู้ที่ฉลาด และรวดเร็วกว่าย่อมได้เปรียบเช่นที่ สตีฟ จ็อบส์ ใช้ความสามารถไปชิง graphic user interface และ mouse มาจากซีร็อกส์ และการที่ อินเทล ยักษ์ใหญ่สีฟ้า เสียรู้ให้บิล เกตส์ซึ่งไปซื้อ DOS มาจากคนอื่นไม่กี่เหรียญ แล้วมาขายให้อินเทล ทำเงินมหาศาล
และสุดท้ายที่ สตีฟ จ็อบส์ ต้องมาพ่าย ยอมให้ บิลเกตส์ เป็นเบอร์ 1 ของวงการ ตรงที่ต้องสูญเสีย Graphic User interface ที่ชิงมา แล้วนำมาปรับปรุงเพิ่มขึ้นให้บิล เกตส์ ไปพัฒนาเป็น วินโดว์ ทุกอย่าง มันก็เหมือน “โจรสลัด” ที่ปล้นชิงกันไปมา ส่วนวิธีการ จะเป็นอย่างไร ลองอ่านดูค่ะ
พระเอก หรือ ผู้ร้าย
สตีฟ จ๊อบ ชายหนุ่มนักประดิษฐ์อารมณ์ศิลป์ผู้ก่อตั้ง Apple
บิล เกตส์ จอมกะล่อน ผู้ก่อตั้ง Microsoft อันอื้อฉาว เก่งโป๊กเกอร์ ไผ่เผล
ผู้ช่วยพระเอก หรือ ผู้ช่วยผู้ร้าย
สตีฟ วอสเนียค อัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์
พอล อัลเลน ชายหนุ่มผู้สนใจคอมพิวเตอร์ และเก่งในการเจรจาต่อรอง
สตีฟ บอลเมอร์ เอกคณิตศาสตร์
ในปี1971 เบิคร์ลี่ย์ แคลิฟอร์เนีย สตี ฟ จ๊อบ และสตีฟ วอสเนียค เพื่อนของเขา เริ่มสร้างกล่องที่ใช้ในการโทรศัพท์ทางไกลฟรี ที่มีชื่อว่า กล่องสีฟ้าออกขาย แต่มันมีความเสี่ยงต่อการถูกจับ พวกเขาจึงหันมาสร้างคอมพิวเตอร์แทน
ในปี1974 มหาลัย ฮาร์วาร์ด บิลล์ เกตส์ ร่วมมือกับ พอล อัลเลน เพื่อนสมัยเด็ก สร้างภาษาของคอมพิวเตอร์หรือที่เรารู้จักกัน คือภาษา เบสิก
ในปี1976 สตีฟ จ๊อบและ สตีฟ วอสเนียค นำผลงานการสร้างคอมพิวเตอร์ของตนองไปแสดงที่ชมรม Homebrew Computer Cleb ได้รับความสนใจจากกลุ่มวันรุ่นเป็นอย่างมาก ในปีเดียวกัน สตีฟ ร่วมมือกับ วอส อลิซาเบธ และแดน รวมกลุ่มกันภายใต้ชื่อ Apple ( Appleน่าจะมาจากความเชื่อในศาสนาคริสต์ว่า Apple เป็นผลไม้แห่งปัญญา บวกกับ สตีฟ จ๊อบเป็นมังสาวิรัต และมีความเชื่อว่ากินAppleแล้วไม่ต้องอาบน้ำ : จากหนังสือผ่าสมองสตีฟ จ๊อบ ) โดยใช้โรงรถที่บ้านสตีฟ จ๊อบเป็นฐานปฏิบัติการ ต่อมา ไมค์ มาร์คูล่าร์ นักธุรกิจในกลุ่ม Intel ให้เงินทุนในการสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นจำนวนเงิน 250,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วน บิลล์ เกตส์ และ พอล เข้าทำงานที่ Mits ทำหน้าที่พัฒนาโปรแกรมเครื่อง อัลแทร์(Altair) พร้อมทั้งเปิดบริษัทไมโครซอพต์ของตัวเอง(แต่ยังไม่มีออฟฟิต 1975)
ในปี1977 สตีฟ จ๊อบ เปิดตัว Apple คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในงาน computer faire Sanfrancisco และได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม และทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่นี่ทำให้ บิลล์ เกตส์รู้จักตัวจริงของ สตีฟ จ๊อบ ชายหนุ่มนักประดิษฐ์อารมณ์ศิลป์ ผู้ก่อตั้ง Apple และในปีเดียวกัน บิลล์ เกตส์ ได้เปิด Microsoft offices Albuquerque ขึ้นเป็นแห่งแรก (ออฟฟิต)
ในปี1980 บิลล์ เกตส์ ได้ชวน สตีฟ บอลเมอร์ มาเป็นผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ (ปัจจุบันเป็น CEO ของไมโครซอฟท์) ในช่วงเวลาที่ Apple กำลังเติบโต เป็นบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน (ตามท้องเรื่อง) แต่ตรงกันข้าม Microsoft ยัง อยู่กับที่ไม่มีการพัฒนา แต่เมื่อบริษัทจนตรอกจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่ ความคิดแบบมาเฟียที่ว่า“จงใกล้ชิดเพื่อนสนิท แต่ใกล้ชิดศัตรูให้มากกว่า” ของ บิลล์ เกตส์ก็เกิดขึ้น ทำให้ บิลล์ เกตส์ ตัดสินใจเดินเข้าไปเสนอขาย โปรแกรมควบคุมระบบ ที่มีชื่อว่า Dos ที่ทุกคนรู้จักกันดีในปัจจุบัน ให้กับ IBM ยักษ์ใหญ่ของวงการ IT คุณเชื่อไหม บิลล์ เกตส์สามารถขายโปรแกรมนี้ได้ ทั้งที่เขายังไม่ได้สร้างมันซะอีกในราคา 80,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แล้ว เขาเอาโปรแกรมควบคุมระบบที่ว่านั้นมาจากไหนละ .......... อย่าลืมนะว่ายังมี พอล ชายผู้เก่งด้านการเจรจา พอลไปขอซื้อโปรแกรมควบคุมระบบ มาจาก Seattle Company Computer ในราคา 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และนำมาพัฒนาต่อ แต่ก็ไม่สำเร็จเท่าที่ควร
ในปีเดียวกัน สตีฟ จ๊อบ ได้เชิญ จอห์น สกันลี่ย์ (ผู้บริหารระดับสูงของเป็ปซี่ - โคล่า) มาเป็นประธานคนใหม่ของ Apple
สตีฟ จ๊อบ มองคอมพิวเตอร์ว่าเป็นศิลปะ ผู้สร้างคือศิลปิน โดยอ้างคำพูดของปีกัสโซที่ว่า “ศิลปินที่ดีลอกเลียน ศิลปิน เอกขโมย” แล้วเขาก็เริ่มปฏิบัติการ การเป็นศิลปินเอกด้วยการเอาไอเดีย "เม้าส์" และ Graphic User Interface ที่วิศวกรใน บริษัท XEROX คิดขึ้น มาสร้างเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อว่า "ลิซ่า"
ในปี 1983 สตีฟ จ๊อบ เปิดตัวคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ชื่อว่า "ลิซ่า" (เป็นชื่อลูกสาวคนแรกกับแฟนสาวสมัยเรียนหนังสือ แต่สตีฟ จ๊อบไม่ยอมรับว่าเป็นลูกในตอนแรก) จากเหตุการณ์การเปิดตัวของ "ลิซ่า" ทำให้ บิล เกตส์ สนใจในความสามารถของ"เม้าส์" และ Graphic User Interface และอยากได้มาครอบครอง จากจุดนี้เองทำให้ บิล เกตส์ ทำตัวเป็นศิลปินเอกโดยการเดินเข้า Apple ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Apple กำลังสร้าง computer ที่มีชื่อว่า Macintosh และจะเปิดตัวในอีก 1 ปีข้างหน้า แน่นอนเมื่อ บิลเกตส์เห็นเจ้าเครื่องที่ชื่อว่า Macintosh ยิ่งทวีความอยากได้มากขึ้น บิล เกตส์ไม่รอช้าใช้มุกเดิมทันทีโดยอ้างว่าตัวเองมีมัลติเพลย์เยอร์ กับ แพลทฟอร์มที่สามารถพัฒนามาใช้กับ Macintosh ได้ และตอนนี้ IBM ก็สนใจเช่นเดียวกัน แต่เขาอยากร่วมงานกับ Apple และเป็นครอบครัวเดียวกันกับ สตีฟ จ๊อบ มากกว่า(นกสองหัว) แน่นอนว่า บิลเกตส์ได้งานนี้ไปทำพร้อมทั้งเครื่องต้นแบบของ Macintosh ด้วย เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง สตีฟ จ๊อบ บิลเกตส์นำเครื่องต้นแบบ Macintosh ไปพัฒนาเป็นวินโดว์ของตัวเอง สตีฟ จ๊อบโมโหมากพร้อมทั้งด่าบิล เกตส์ว่าเป็นขโมย แต่บิล เกตส์ไม่ได้ตอบโต้ เพียงแต่อธิบายว่าวินโดว์ที่เขาสร้างเป็นสิ่งที่กระจอกมากไม่มีค่าอะไรเมื่อ เทียบกับระบบของ Macintosh ซึ่งบิล เกตส์ก็เก่งในเรื่องการตะล่อมซะด้วยซิ แต่แล้วสิ่งที่สตีฟ จ๊อบ กลัวก็เป็นจริง เมื่อก็อบปี้วินโดว์ถูกจำหน่ายไปทั่ว และ บิล เกตส์ยังแล้วร่วมมือกับ บริษัทคอมพิวเตอร์ NEC ใน ญี่ปุ่น ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไมโครซอฟท์วินโดว์และมีหน้าตาคล้ายเครื่องMacintosh เป็นอย่างมาก และนี่เป็นจุดแตกหักของ บิล เกตส์ กับ สตีฟ จ๊อบ(ฉากนี้ได้อารมณ์มาก และคำพูดที่บิล เกตส์พูดกับ สตีฟ จ๊อบมันเห็นผลแล้วในปัจจุบันเมื่อ สตีฟกลับเข้าสู่ Apple บิล เกตส์คงรู้ตัวแล้วว่าไม่น่าพูดเลย)
ในปี 1984 Apple ก็เปิดตัว Macintosh อย่างสวยงาม ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน บิล เกตส์ ก็เปิดตัวไมโครซอฟท์วินโดว์
ใน ปี1985 หลังจากที่ Macintosh เปิดตัวไปได้ปีเดียว ความขัดแย้งระหว่าง สตีฟ จ๊อบ กับพนักงาน และผู้บริหารด้วยกันรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดหลังจากงานฉลองครบรอบอายุ30 ปีของเขาเพียงแค่สามเดือน เขาถูก จอห์น สกันลี่ย์ ประธานบริษัท ปลดตำแหน่งจากผู้บริหารระดับสูง และไล่เขาออก แต่ในขณะเดียวกันบิล เกตส์เริ่มจะกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก
ในปี1996 สตีฟ จ๊อบกลับเข้าสู่Apple อีกครั้งแต่ใน นามผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เน็กซ์ คอมพิวเตอร์
ในปี1997 สตีฟ จ๊อบกลายเป็นผู้บริหารระดับสูงชั่วคราว เขาเรียกตัวเองว่า (iCEO) ของบริษัท Apple
ส่วน ลิซ่า ลูกสาวคนแรกได้กลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัวใหม่ของสตีฟ จ๊อบ และภรรยา
Download Mediafire
Part 1-5
Part 6-10
Part 11-14
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น